ปี่เซียะ

เซียนพนันในหมู่บ้านฉันมีกันหลายคน แต่คนที่เก่งที่สุดก็คือป้าอ้อ
ป้าแกเปิดร้านขายของชำ แกเป็นถึงนักเรียนบางกอก ทำงานกรุงเทพฯ
มาตั้งหลายปี แต่ด้วยความกตัญญูจากสาวกรุงเทพฯ ที่สวยสุดๆ
กลับมาในหมู่บ้านเหมือนแกเป็นดารา แกกลับมาดูแลพ่อแม่ที่ชรา
พี่น้องป้าอ้อมีมากจนนับด้วยนิ้วทั้งสองมือไม่พอ แต่ละคนร่ำรวยกันทั้งนั้น
ความรวยนั้นไม่ใช่ด้วยความขยันขันแข็งของตัวเองสักคนพ่อและแม่ป้าอ้อข
ยัน ลูกจึงสบาย
แต่สุดท้ายมาจบที่ร้านขายของชำในหมู่บ้านตากับยาแบ่สมบัติให้ลูกหมดเหลื
อไว้แค่ที่ดินที่อยู่ร้านขายของชำมีันก็ทำรายได้ให้แก่ได้ดี
ไม่ต้องไปทำสวนทำนาแบบเก่า
ส่วนป้าออเองว่างจากการขายของตอนเช้าแล้ว แกเปิดโรงเรียนที่บ้านแก
นักเรียนของแกมีทุกเพศวัยใกล้เคียงกับแก
ป้าอ้อเป็นครูใหญ่ซึ่งก็คือเจ้ามือวงพนันนั้นเอง
ส่วนนักเรียนก็คือนักพนันไพ่ของแก
บางวันผมผ่านไปเห็นแกขายของตอนกลางวัน ผมถามแกว่า
“โรงเรียนปิดเหรอป้าวันนี้” แกบอกว่า “เออ นักเรียนมาไม่ครบ” เป็นอันรู้กัน
ว่าขาเล่นไม่ครบ เวลาผ่านมาหลายปทำอะไรป้าแกไม่ได้เลยจริงๆ
ตั้งแต่สมัยผมเด็กๆ จนถึงวันนี้แกสวยอยู่อย่างไรก็ยังสวยอยู่อย่างนั้น
ยิ่งแก่ยิ่งสวย แถมป้าแกมีวิชาดีติดตัวบางคนว่าแกมีของดี
ถ้าแกไปเล่นไพ่ที่อื่นแกจะไม่ชนะขาดลอยเหมือนเล่นบ้านแกเอง
ถ้าแกเล่นบ้านแกยากนักที่แกจะแพ้ นักเรียนแก
ทั้งที่รู้ว่าอาจจะแพ้ครูใหญ่อยู่เต็มอกก็ยังไปเล่นบ้านแกอยู่นั่นแหละ
ผมก็ไม่เข้าใจนักเรียนแกเหมือนกัน โรงเรียนแกเปิดอาทิตย์นึง 5 วัน
เสาร์อาทิตย์หยุดเป็นธรรมดา และคนแถวนั้นที่มาเล่นไพ่บ้านแก
เล่นทีละเป็นหมื่น มีแต่คนอยากรู้ว่าแกมีดีอะไร
กุมารทองหรือเปล่าผมก็ไม่ทราบ
ตาสนเป็นคนมีของมีอาคมคนในหมู่บ้านว่าแกอยากจะตายแต่ตายไม่ได้เพรา
ะแกมีเหล็กไหลในตัว คนที่มีเหล็กไหลใครฆ่าไม่ตาย ผมสงสารแกจับใจ
แกเล่าว่ากุมารทองนั้นทำมาจากเด็กผู้ชายที่ตายในท้องแม่ตั้งแต่ยังไม่เกิด
เขาจะผ่าเอาเด็กออกมา ซึ่งมันต้องมีการทำพิธีกรรมด้วย

เด็กตายเท่านั้นไม่พอ ต้องตายท้องกลมคือเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งเด็ก
เขาจะทำพิธีเพื่อเอาเด็กออกมาแล้วเอามาย่างไฟให้แห้งสนิท
พิธีนี้ต้องทำให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แค่ฟังก็น่าสงสารทั้งแม่และทั้งเด็ก
แต่คนที่บ้าคาถาอาคมเขาทำกันได้ เมื่อแห้งดีแล้วยังมีการนำมาลงรักปิดทอง
เหตุนี้จึงมีชื่อเรียกว่ากุมารทอง แต่ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงจะเรียกว่าโหงพราย
คนที่มีกุมารทองเชื่อว่าต้องเลี้ยงให้เหมือนลูกของตัวเอง
ต้องเรียกให้กินข้าวกินน้ำ น้ำแดงนี่กุมารทองชอบที่หนึ่งเลยครับ
กล้วยน้ำว้าเอย, ทองหยิบเอย, ทองหยอดเอย, สารพันขนมไทยที่จะถวาย
แต่สิ่งที่กุมารทองไม่ชอบเลย เขาว่ากันว่ากุมารทองไม่ชอบน้ำเปล่า
ผมไปบ้านป้าอ้อทีไรเห็นขวดน้ำแดงประจำ
แล้วแกก็ชอบสั่งให้ผมเอาขนมไปส่งเพราะแม่ผมทำขาย ไม่ว่าจะขนมชั้น,
ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, เม็ดขนุน, ขนมเปียกปูน, ขนมหม้อแกง,
สารพัดสารพันขนมไทย
ไปบ้านแกทีไรผมก็พยายามมองหาว่าจะมีเด็กออกมาวิ่งเล่นบ้างไหม
แต่ก็ไม่เคยเห็น ตาสนนบอกว่าถ้าเลี้ยงไว้ดีๆ มึงจะรวยไม่รู้เรื่องเลย
จะมีอะไรเกิดขึ้น กุมารทองจะเตือนมึงล่วงหน้า ถ้าโจรมาดึกๆ ดื่นๆ
ไม่ได้กินมึงหรอก กุมารทองจัดการเรียบ ยิ่งถ้ามึงเล่นไพ่นะ
กุมารทองจะบอกมึงว่าคนที่มึงเล่นด้วยมีอะไร แต่นั่นแหละ
กุมารทองจะไม่เข้าบ้านคนอื่นเพราะที่อื่นๆ ก็มีเจ้าที่กันทั้งนั้น
เมื่อพิจารณาแล้วมันก็เป็นไปได้ที่ป้าอ้อแกจะมีกุมารทองเป็นของตัวเอง
แกเคยแพ้ไพ่ใครที่ไหนในหมู่บ้าน ยิ่งถ้าเล่นที่บ้านแกไม่มีแพ้
ตาสนว่ากูจะบอกให้นะว่ามันยังมีคาถาปลุกเสก คาถาบูชา ทำดีๆ
รวยไม่รู้เรื่องนะมึง จะเอาสักตัวไหมละมึงนะ ผมไม่เอาด้วยละครับ
ผมอยู่กับแม่สองคน วันดีคืนดีเกิดมาวิ่งเล่น แม่ผมไม่ตกใจเป็นลมไปหรือ

แต่มีอีกอย่างที่ผมว่าป้าแกมีจริงคือ ปี่เซียะ
แกใส่กำไลปี่เซียะของแกเป็นทองทั้งตัวปี่เซียะแกไม่โดนเจาะรูตรงกลางตัวข
องแกตันทั้งตัวเขาทำโซ่ไว้คล้องใต้ท้องสวยมาก
แกว่าแกไปซื้อมาจากร้านขายของเก่าในบางกอกสมัยแกสาวๆ

แกเข้าไปร้านนั้นแกจะออกไปก็ไปไม่ได้
เหมือนกับแกต้องซื้ออะไรสักอย่างแต่ก็ไม่อยากซื้ออะไร
แกเดินผ่านตู้กระจกเห็นปี่เซียะตัวนี้เลยซื้อมา คราวนี้ก็ออกมาได้สบายใจ
แกว่าได้เสียกะตังค์แล้วแกคงสบายใจ ตอนแกจ่ายตังค์คนขายบอกว่า
“เขาเลือกคุณเหรอ” คนขายบอกว่ามีคนจะซื้อหลายครั้งแล้ว
แต่ว่าต่อยังไงก็ไม่ขาย บางคนเสนอราคาให้เยอะแค่ไหนก็ไม่ขายทั้งๆ
ที่แกอยากขาย แกก็ไม่รู้ทำไมมาวันนี้ป้าไม่ต่อแกเลยสักบาท
ถึงต่อแกก็คงขายเพราะอยากขาย แปลกจริง
ป้าว่าแกชาตินี้ไม่เคยเลยซื้ออะไรไม่ต่อ ยิ่งตอนสาวๆ สวยๆ แกต่อยับ
เข้าไปร้านนี้เขาตั้งราคาไว้เท่าไหร่แกจ่ายเลย เขาว่าซื้อปี่เซียะอย่าต่อ
มันเหมือนสัตว์เลี้ยงเป็นวัตถุมงคล “เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ”
ปี่เซียะนี่ไม่ธรรมดานะครับ เขาว่าช่วยดูดทรัพย์ช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดี
อาม่าในตลาดบอกว่า ปี่เซียะเป็นสัตว์ประหลาดที่รวมเอาลักษณะสัตว์มงคล 5
ชนิดของจีนมาไว้รวมกัน คือมังกร พญาราชสีห์ อินทรี กวาง และแมว
อาม่าแกว่า ปี่เซียะเป็นลูกของพญามังกรตัวที่ 9
ซึ่งคนจีนถือว่าเป็นเทพแห่งโชคลาภ แม้แต่การเกิดก็ไม่ธรรมดาแล้วครับ
เท่านั้นยังไม่พอ อาม้าว่ามันต้องมีลักษณะดีด้วยนะ ไม่ใช่ลื้อจะซื้อสุ่มสี่สุ่มห้า
ลื้อต้องดูว่าปี่เซียะลื้อ 1. อ้าปากรับทรัพย์หรือเปล่า ถ้าปากอ้าซื้อได้
ถ้าปากหุบวางไว้ที่เดิม ปี่เซียะปลอมแล้วไอ้ตี๋ 2.
มันต้องมีหางยาวไว้กวักโชคลาภ พญาสิงโตอะไรจะไม่มีหาง
อย่าให้ถูกหลอกมานะ อั๊วจะไม่พูดด้วยเลย 3. หัวมันต้องยกขึ้น
เอาไว้ข่มคนอื่นให้กลัว ปี่เซียะบ้านไหนหัวตก เกิดมาอั๊วไม่เคยเห็น
แต่คนสมัยนี้ซี้ซั๊วทำ 4. อันนี้ลื้อต้องดูให้ดี ฝ่าเท้าต้องตะปบเงิน
อย่าให้มันอ้าออก จะเก็บเงินทองไม่อยู่ 5. มันต้องก้าวขาไปข้างหน้า
ชีวิตจะได้รุ่งเรือง 6. ลิ้นต้องยาวไว้ตวัดเงินทอง ตอนนี้อั๊วไม่เห็นมีลิ้นสักตัว
คนทำซี้ซั๊วทำ 7. ลักษณะต้องดี อกผายไหล่ผึ่ง มันต้ององอาจไม่ใช่ตัวผอมๆ
เหมือนลื้อ ลื้อต้องกินหน่อยนาอาตี๋
แล้วไอ้ยาจีนที่อั๊วให้ไปลื้อกินบ้างไม่ใช่ให้แม่ลื้อหมด เข้าใจไหมอาตี๋
อาม่าแกเอ็นดูผมมาก แกชอบให้ยาจีนผมไปกินบำรุงร่างกาย
แกรู้ว่าผมรักแม่ผมให้แม่กินด้วย ผมตอบแกว่า“ครับ” 8.

อันนี้สำคัญมากมันต้องไม่มีรูทวารนะอาตี๋ อั๊วเห็นคนแถวนี้เอามาใส่เป็นข้อมือ
ปี่เซียะโดนเจาะจากปากทะลุทวาร เฮ้อแล้วมันจะเก็บเงินได้ยังไงวะไอ้ตี๋
แล้วแกต้องวางปี่เซียะในที่ที่มองเห็นองอาจ อย่าเอาไปวางข้างห้องน้ำ
หรือในที่อับ มันจะไม่เป็นผล เข้าใจไหม
คราวนี้ผมยิ่งมั่นใจว่าป้าอ้อแกเลี้ยงปี่เซียะ
เพราะเวลาเข้าไปบ้านแกจะเห็นตัวนี้ยืนเด่นเป็นสง่าเลยทีเดียว
แกมีอีกตัวไว้พกพาไปไหนมาไหนกับแกด้วย
เวลาแกไปเข้าห้องน้ำแกจะบอกให้ผมดูกระเป๋าแกให้ดี อย่าเอามาตั้งไว้ที่พื้น
ให้วางไว้ที่เก้าอี้ เดี๋ยวปี่เซียะแกจะหล่นหาย ทั้งที่ข้อมือแกก็มีอีกตัว
ไม่ว่าแกจะเลี้ยงปี่เซียะหรือว่าเลี้ยงกุมารผมก็ไม่เคยกลัว
เมื่อคืนในวงไพ่แกได้มาหลายแสน แกเล่นจนพระอาทิตย์จะขึ้นมาสว่างคาตา
เวลาแกเล่นไพ่ทั้งคืนแกจะเลิกเล่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้นเสมอ
มันเป็นเคล็ดแกบอกผม ผมขับรถไปส่งแกที่บ้านเช้านี้
แกให้ผมมาหนึ่งพันบาท แกบอกว่าค่ารอ แล้วแกให้อีกห้าพัน
แกว่านี่ค่าลงทะเบียนเรียนเทอมนี้นะ ป้าอ้อแกเหมือนแม่ผมคนนึง
แกส่งผมเรียนกับเงินที่แกหามาได้นี่แหละครับ แม่ผมก็รู้
แกว่าเงินที่ได้มาต้องเอาไปใช้ในทางที่ดี
จะให้ป้าเอาไปสร้างวัดเมื่อไหร่จะพอ แต่ให้เด็กได้เรียนนี่เห็นผลทันตา
“ขอบคุณครับป้าอ้อ” ผมบอกแกก่อนลากลับบ้าน
แม่ผมให้ผมไปเฝ้าป้าอ้อทุกงานตั่งแต่ผมเล็กจนโต ไปรอจนแกกลับ
ป้าอ้อไม่มีลูกมีแต่หลาน
ผมตั้งใจไว้แล้วตั้งแต่เด็กว่าผมจะเลี้ยงดูแกเองตอนแกแก่ ผมไม่เคยบอกแก
แต่ผมตั้งใจไว้แล้วครับ
จากผู้ดูแลปี่เซียะ